| | | 1 | Organic 3D เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ในสามมิติ | Here's something new for 2008: we will be seeing 3d effects in logo design that will reach different places and stimulate different viewers who are craving for a new, fresh look! Polish those lenses and see 3D escalate to a higher level!
นี่คือสิ่งใหม่ในปี 2008 เราจะได้เห็นเอฟเฟกสามมิติในการออกแบบโลโก้ซึ่งเข้าถึงในสถานที่ต่างๆ และกระตุ้นความแตกต่างของคนดูผู้ซึ่งปรารถนาในสิ่งใหม่ ดูสดซิง เหมือนการขัดเกลาเลนส์และมองเห็นสามมิติยกระดับสูงขึ้น Let's take an example. You're seeing the Silverlight logo for the first time. Your eyes are trying to absorb every feature and then-you suddenly react. What's your first reaction? A breathless "WOW"? Do you find yourself saying "aha"? Does the Silverlight logo design trigger a feeling in you, arousing a desire to actually want to see the product that's behind that logo? That reaction was what the creators of this corporate logo were aiming for.
มาลองยกตัวอย่าง คุณกำลังเห็นโลโก้ Siverlight เป็นครั้งแรก ตาของคุณกำลังพยายามที่จะดูดทุกๆ จุดเด่นและจากนั้นก็ตอบสนองทันที อะไรคือสิ่งที่คุณตอบสนองเป็นสิ่งแรก การร้องว้าวเบาๆ ? หรือคุณกำลังจะพูดว่า อาฮะ ? โลโก้ Silverlight จุดประกายความรู้สึกในตัวคุณหรือเปล่า ? ทำให้คุณปรารถนาที่จะอยากเห็นสินค้าภายใต้โลโก้นี้หรือไม่ ? ปฎิกิริยาโต้ตอบเช่นนี้คือสิ่งที่ผู้สร้างโลโก้มุ่งหมายให้เป็นเช่นนั้น
The logo designer starts with a very basic shape that is applied to a simple transparency effect. This can lead to a more complicated process, but one thing you must remember is that the end result should look as organic as possible. Take your distortion tool for a good spin!
ผู้ออกแบบโลโก้เริ่มด้วยรูปทรงพื้นฐานธรรมดาที่ใส่เอฟเฟกโปร่งแสงง่ายๆ สิ่งนี้สามารถทำให้เห็นถึงความซับซ้อนของขบวนการ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องจำไว้คือสิ่งสุดท้ายที่เห็นควรจะเหมือนกับสิ่งมีชีวิตเท่าที่เป็นไปได้ ควรใช้เครื่องมือปิดงอเพื่อให้ได้เกรียวที่สวยงาม
We welcome this type of logo design because it stands out and it tells us that it's not "run of the mill." You see, the 3d bubbles and transparency effects - which were overused - were getting really boring. There is just one downside: ''eye catching '' logos were appearing on the scene and becoming more sophisticated but they are not necessarily the easiest to print.
เราชื่นชอบการออกแบบโลโก้ประเภทนี้ มันโดนเด่น และมันบอกเราว่ามันไม่ธรรมดา คุณเห็นไหมว่า ฟองอากาศสามมิติและเอฟเฟกโปร่งแสงที่มากเกินไปจะทำให้ดูน่าเบื่อ มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ ถึงแม้ในเรื่องการดึงดูดสายตา รูปแบบโลโก้จะดูเหมือนมีประสบการณ์มาก แต่ไม่จำเป็นสำหรับงานพิมพ์แบบง่าย
In fact, the capability to print the logo exactly as it looks on screen is a frequent request that stands at the basis of corporate logo creation. Is it possible that the constant technological development that now allows us to accurately reproduce a design on different surfaces will generate changes in the classic laws of logo design?
ความจริงแล้ว ความสามารถในการพิมพ์โลโก้ให้เหมือนที่มันมองเห็นบนจอเป็นสิ่งที่คนเรียกร้องมาบ่อย ซึ่งโดยมากเป็นการออกแบบโลโก้บริษัท มันจะเป็นไปได้ไหมที่ความแน่นอนของเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถสร้างการออกแบบได้บนพื้นผิวหลายๆ แบบ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงกับหลักการออกแบบโลโก้แบบเก่าๆ
Technology organizations that produce and market groundbreaking products and services use this type of company logo design. By using the "organic 3d" effect, logo creators avoid that cold image look which is so typical of other companies' logos in the technology field. This type of logo is not only eye catching, but is also friendly. And here's a bonus: the lighting effect is fantastic!
บริษัทด้านเทคโนโลยีที่ผลิตและทำการตลาดของสินค้าและบริการ ใช้การออกแบบโลโก้บริษัทแบบนี้ โดยการใช้เอฟเฟกเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตสามมิติ คนสร้างโลโก้จะหลีกเลี่ยงภาพลักษณ์ที่ดูเย็นชาสำหรับบริษัทที่ทำด้านเทคนโนโลยีทั่วไป ประเภทโลโก้แบบนี้ไม่เพียงแค่จะดึงดูดสายตา แต่ยังดูเป็นกันเอง และการทำเอฟเฟกด้านแสงจะทำให้ยิ่งดูมหัศจรรย์มากขึ้น
| | | That's it - no more swooshes! After years of being number one, swooshes have now been replaced by the so-called waves. Do you see these waves in the above logos? Top graphic designers use them to inject more flexibility and flow into the design. To highlight the idea of movement, logo designers execute a fade technique from one color to another for this type of logo design. It does not matter if a single wave is used or is incorporated into the design; the round shapes give it flexibility so that the viewer gets a sense of movement and of communication. "Waves" are a good strategy to suggest the feelings of movement, transfer, quickness and connection. They are not easy to use, but if you master the technique, you can produce and optimize the effect. "Waves" are now IN - they have replaced swooshes, swirls and other curves you find in logo designs everywhere. Could waves be the new swooshes? Will they dominate the scene in a few years? Long time ago we thought swooshes were trendy. Then they rose in popularity so much they become a big NO NO. And today, waves are hugging the limelight. Will this be the new trend? We shall see!
นั่นแหละ ไม่มี swooshes มากไปกว่านี้อีกแล้ว หลังจากปีของการได้เป็นที่ 1 รูปแบบ swooshes ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่เราเรียกว่าคลื่น คุณเห็นคลื่นเหล่านี้เหนือโลโก้มั้ย นักออกแบบโลโก้เก่งๆ ใช้มันเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและไหลลื่นในงานออกแบบ เพื่อที่จะสร้างความรู้สึกเคลื่อนไหว นักออกแบบโลโก้ทำเทคนิคการไล่สีสำหรับโลโก้ประเภทนี้ มันไม่จำเป็นว่าคลื่นอันเดียวจะถูกใช้ หรือ เกี่ยวข้องกับการออกแบบ รูปทรงโค้งมนทำให้รู้สึกยืดหยุ่น ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้คนดูได้ความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว และการสื่อสาร คลื่นเป็นยุทธวิธีที่ดีที่ใช้แนะนำความรู้สึกเคลื่อนไหว การขนส่ง ความเร็วและการเชื่อมต่อ มันใช้ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณเก่งในเทคนิค คุณสามารถสร้างและปรับปรุงเอฟเฟกได้ คลื่นเป็นคำที่นิยม มันถูกใช้แทนคำว่า swooshes swirls และ curves ซึ่งคุณเห็นในการออกแบบโลโก้ได้ทุกที่ คลื่นคือ swooshes แบบใหม่ใช่มั้ย ? พวกเขาจะเป็นแนวฉากในไม่กี่ปีหรือเปล่า ? นานมาแล้วที่เราคิดว่า swooshes ดูทันสมัย มันแพร่กระจายมากและก็หลังจากนั้นก็ถูกปฏิเสธ และในวันนี้ คลื่นกำลังเป็นเเหมือนแสงสว่างรำไร นี่จะเป็นเทรนใหม่หรือไม่ เราจะได้เห็นกัน
| | | Designers often hear the term "web 2.0" from their customers who ask for this specific type of logo. The term Web 2.0 actually refers to certain technologies (Ajax, Ruby, etc). The thing is, can we really say that there's a new trend in graphic design, the web 2.0 design?
นักออกแบบมักได้ยินคำว่าเว็บ 2.0 กันจากพวกลูกค้าผู้ซึ่งจำกัดรูปแบบที่ชัดเจนของโลโก้ คำว่าเว็บ 2.0 จริงๆ แล้วหมายถึงเทคโนโลยี Ajax Ruby (พวกเว็บที่มันปรับเปลี่ยนข้อมูลโดยคนใช้ได้ไวๆ น่ะ) และอื่นๆ ประเด็นก็คือเราจะบอกได้มั้ยว่ามันเป็นเทรนใหม่ในการออกแบบกราฟิก การออกแบบเว็บ 2.0 เนี่ย ?
It seems to be the case these days. A web2.0 logo is now synonymous to a modern and trendy logo, and this is why we find an impressive number of tutorials on the Net that allow designers to transform existing logos into web 2.0 logos. What characteristics do web 2.0 logos have? They have bright colors, color levels, cute, icons, 3D effects, shiny surfaces, shadows and reflexions. The fonts are simple and most of them rounded. In some cases the color levels, shines and 3D effects are also applied to the lettering.
ดูเหมือนว่ามันเป็นกรณีในทุกวันนี้ โลโก้เว็บ 2.0 คือ ตัวแทนของความทันสมัย และความเข้าเทรนของโลโก้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงหาบทเรียนที่ให้แรงบรรดาลใจในเน็ต ที่อนุญาตให้นักออกแบบบเปลี่ยนโลโก้เดิมไปเป็นโลโก้เว็บ 2.0 อะไรคือลักษณะเด่นของโลโก้เว็บ 2.0 ที่มันมี ? พวกมันมีสีที่สดใส มีระดับสี ไอคอนน่ารัก เอฟเฟกสามมิติ พื้นผิวสะท้อนแสง เงาและแสงสะท้อน พอนต์ที่ดูง่าย และส่วนมากจะกลม ในบางกรณีระดับสี แสงสว่าง และเอฟเฟกสามมิติจากนำไปประยุกต์ใช้ในตัวอักษรด้วย
These effects must be used very carefully, because we have seen countless cases where the logo designer uses these elements to make a logo look good but neglects to give the concept the necessary attention it deserves.
เอฟเฟกแบบนี้ต้องถูกใช้อย่างระมัดระวัง เพราะว่าเราเห็นได้ว่ามีกรณีมากมายที่คนออกแบบโลโก้ใช้องค์ประกอบเหล่านี้ แล้วทำให้โลโก้ดูดี แต่กลับละเลยที่จะให้หลักการของสิ่งที่จำเป็นที่ต้องการให้สนใจไป
Some of these logos are beautiful. They catch your eye instantly and give you the feeling of sophistication and technology. But is the web 2.0 logo design trend strictly related to the current popularity of web 2.0 technology? Will this trend fade when something else replaces web 2.0 technology?
โลโก้เหล่านี้ดูสวยงาม มันดึงดูดสายตาคุณ และทำให้คุณรู้สึกถึงความมีเทคโนโลยีที่มีระดับ แต่โลโก้เว็บ 2.0 เทรนมันยิดติดกับความมีชื่อเสียงของเทคโนโลยีเว็บ 2.0 มากเกินไปหรือเปล่า ? เทรนเหล่านี้จะจางหายไปหรือเปล่าเมื่อมีบางอย่างมาแทนที่เว็บ 2.0 ?
Interestingly enough, we are sure that this type of logo can also be called the "apple type logo". We are all familiar with the Apple logo; in fact we were astonished when in 1998, Apple gave up the "rainbow logo" and launched the "glass Apple logo ". This logo has turned out to be one of the most famous brands in the world, and it "stirred up the crowd" without any doubt when it was first launched. The fresh, innovative 3D technical image was one influential factor, but its bright and warm qualities contributed to the evolution of logo design and the way a brand should be perceived.
น่าสนใจพอหรือยัง เราแน่ใจได้ว่าประเภทโลโก้แบบนี้เรียกว่า โลโก้แบบ Apple พวกเราคุ้นเคยกับโลโก้ Apple ความจริงแล้วเราถูกทำให้ประหลาดใจตั้งแต่ปี1998 ซึ่ง Apple ได้ให้โลโก้สายรุ้ง และ โลโก้ Apple แก้ว โลโก้นี้ได้กลายมาเป็นโลโก้ที่มีชื่อเสียงมากในโลก และมันชักจูงคนจำนวนมากโดยปราศจากความสงสัยตั้งแต่มันเปิดตัว ความสดใหม่ นวัตกรรมด้านเทคนิคภาพสามมิติ คือ ปัจจัยที่มีอิทธิพลหนึ่ง แต่ความสดใสและความอบอุ่นของคุณภาพมีส่วนทำให้เกิดการปฏิิวัติการออกแบบโลโก้และเส้นทางของการทำแบรนด์ให้เป็นที่ประจัก
Today we are flooded with 2.0 web logos that unfortunately have become too common. We'll have to wait and see whether they are here to stay or are just a passing trend. What do you think?
วันนี้เราเต็มไปด้วยโลโก้เว็บ 2.0 ซึ่งโชคไม่ดีที่มันจะดูค่อนข้างธรรมดา เราควรจะต้องรอดูว่าพวกเค้าจะอยู่กับมันหรือผ่านเทรนนี้ไป คุณคิดว่าไง ?
| | | | 4 | Transparency in logo design ออกแบบโลโก้โปร่งแสง
| We'll say this right away: transparency has always been fashionable. Designers often use transparency, thanks to the notion of elegance that it communicates. Transparency allows the combination of different design elements offering the viewer a special image. With the help of transparency you can create perspectives, suggest the ideas of growth, development, combination and connection.
เราจะบอกว่านี้เป็นสิ่งที่ถูกเสมอ การโปร่งแสงดูเป็นแฟชั่นเสมอ คนออกแบบนิยมใช้การโปร่งแสง ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่หรูหราซึ่งทำให้มันสื่อสาร การโปร่งแสงทำให้การรวมสิ่งที่แตกต่างเกิดมุมมองใหม่ที่แปลกตาในภาพ ด้วยความช่วยเหลือของการโปร่งแสงเราสามารถสร้าง ทัศนคติ แนะนำการเติบโต การพัฒนา การรวมตัวของการติดต่อสื่อสาร
Some famous designers are of the opinion that only inexperienced logo designers use transparency and color levels. We disagree. Transparency enables you to create some unique effects that definitely catch the attention of the viewer. Transparency makes the design brighter, and the subtle transition from one element of the design to another provides the illusion of a bright spot. Take a close look at the DarienLibrary logo. What better suggestion would you make regarding the existence of additional elements without the help of transparency?
นักออกแบบที่มีชื่่อเสียงบางคนให้ความเห็นว่า นักออกแบบโลโก้ที่ไม่มีประสบการณ์เท่านั้นใช้การโปร่งแสง และระดับสี แต่เราไม่เห็นด้วย การโปร่งแสงทำให้เราสามารถสร้างเอฟเฟกที่เป็นเอกลักษณ์ ที่จับความสนใจของคนดู การโปร่งแสงทำให้การออกแบบดูสว่างขึ้น และรอยเชื่อมต่อบางขององค์ประกอบของงานออกแบบจะทำให้เกิดภาพของจุดสว่าง มองโลโก้ DarienLibrary ชัดๆ คุณว่ามันจะมีอะไรดีถ้าไม่ใช่ความโปร่งแสงของมัน
| | | | 5 | "Underground" Typography - Minimal Fonts แนวใต้ดิน การพิมพ์แบบฟอนต์น้อยๆ
| Examine the logos above. Have you seen similar ones before? These are logos that we have often found on the sites of Typographic Artists over the last few years. Who would have thought, however, that they would become mainstream by the year 2007?
พิจารณาโลโก้ข้างบน คุณได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า นี่คือโลโก้ที่เรามักจะพบในเว็บพวกการนักศิลปด้านพิมพ์ ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามใครจะนึกถึงบ้างว่าพวกเค้าได้เป็นสิ่งหลักๆ เลยในปี 2007
These logos are based on minimal fonts that are achieved by using as few elements as possible such as basic shapes (e.g. a circle arch for the Wends logo). This technique is based on simple shapes, exact proportions, and a boundless love for minimalist design. This type of logo design will suit some people and companies perfectly but it continues to create confusion among conservatives.
โลโก้พวกนี้จะอยู่กับพวกฟอนต์ตัวเล็ก ที่ทำให้ดูดีด้วยการใช้องค์ประกอบเล็กน้อยเท่าที่เป็นไปได้อย่างเช่นรูปพื้นฐานธรรมดา (อย่างเช่น วงกลม โค้ง สำหรับโลโก้ Wends ) เทคนิคนี้ยืนบนพื้นฐานของรูปทรงธรรมดา สัดส่วนที่แน่นอน และความรักอย่างไม่มีขอบเขตสำหรับการออกแบบแนวเล็กๆ โลโก้ประเภทนี้จะเหมาะกับบางคนและบางบริษัทอย่างดี แต่มันจะสร้างความสับสนให้กับพวกหัวโบราณ
Here's a question: can this type of design lead to the development of a good logo? Most people would be inclined to say no, especially if the classic principles of logo design - Legibility and Readability - need to be considered. It's true that logos based on the so- called Minimal Fonts do not provide immediate conveyance of the message. However, most agree that they do manage to catch the viewer's attention, provoking a sentiment or desire to "figure out" what the message is.
นี่คือคำถาม การออกแบบแบบนี้จะนำไปสู้การพัฒนาโลโก้ที่ดีได้หรือไม่ ? คนส่วนมากจะมีแนวโน้มบอกว่าไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหลักการแบบคลาสสิกของการออกแบบโลโก้ - ดูเข้าใจอ่านออก - ยังจำเป็นที่จะต้องพิจารณา แต่มันเป็นความจริงที่ว่าโลโก้อยู่บนสิ่งที่มีตัวหนังสือน้อย ไม่ต้องบอกอะไรตรงๆ อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่เห็นด้วยว่ามันดึงดูดสายตาคน ยั่วอารมณ์ ทำให้คิด หรือปรารถนาที่จะ หาคำตอบว่า มันคืออะไร ?
Those who are looking at such logos will immediately want to find out the name of the company and to grasp the meaning of these logos. Furthermore, there is the element of shock when viewers see something new and very different from what is usually seen on the web.
พวกคนที่มองเห็นโลโก้แบบนี้จะต้องการอยากรู้ทันทีว่าบริษัทชื่ออะไร และต้องการเข้าใจความหมายของโลโก้ และมากไปกว่านั้น นี่คือองค์ประกอบที่ทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นสิ่งใหม่และไม่ซำ้กับสิ่งที่เห็นบนเว็บทั่วๆ ไป
You could even say that this type of logo often proves to be more efficient than a logo that merely conforms to classic rules. This statement is relevant to a discussion on the emerging new rule: the more a design is different to what is happening in the industry at a given moment, the better and more efficient a logo is. Logo designs based on minimal fonts require a long-term experience in graphic design and typography; they are also not yet suited for all kinds of customers. We see an increasing number of them being used on album covers of good electronic music, on web sites that target the indie audience, or on web sites of "cult" graphic design studios.
คุณสามารถบอกได้ว่าโลโก้ประเภทนี้มันพิสูจน์ให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าโลโก้ที่ทำตามวิธีการแบบเดิม คำกล่าวนี้มีส่วนในการสนทนาการสร้างกฎใหม่ การออกแบบมากขึ้นคือความแตกต่างที่เกิดขึ้นในอุตสหกรรมในแต่ละช่วง ดีกว่าและมีประสิทธิภาพกว่าที่โลโกจะเป็นได้ การออกแบบโลโก้ด้วยฟอนต์เล็กต้องการประสบการณ์ที่นานในวงการกราฟฟิก และการพิมพ์ โลโก้เหล่านี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เราจะเห็นโลโก้แบบนี้เพิ่มจำนวนขึ้นในปกอัลบัมเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ดีๆ ในเว็บที่มุ่งเป้าหมายไปที่คนแนวอินดี้ และบนเว็บแนว "cult" ลัทธิกราฟฟิกสตูดิโอทำนองนี้
It is our opinion that this is so far the coolest trend for 2008. We hope to see more logos that are created using this particular trend.
มันเป็นความคิดเห็นของเราว่านี่คือสิ่งที่ค่อนข้างเจ๋งที่สุดในปี 2008 เราหวังว่าจะเห็นโลโก้แบบนี้ถูกสร้างขึ้นในเทรนที่แตกต่าง
| | | | 6 | New Rainbow / Color Scale สีรุ้งแนวใหม่ / การไล่สี
| We've seen a thousand rainbows in our lifetime. Yet, each time we see one, we can't help but stare admiringly at the sky even for just a few seconds. We feel that sentiment of wanting to "chase rainbows" as the lyrics of a song go.
เราได้เห็นสีรุ้งมากมายในชีวิต แต่ละครั้งที่เราเห็น ช่วยไม่ได้ที่เราจะต้องจ้องมองอย่างชื่อนชมไปบนท้องฟ้าอย่างน้อยไม่กี่วินาที เรารู้ๆสึกว่าอารมณ์ของความต้องการจับสายรุ้งเหมือนกับเนื้อเพลง
Classic rainbow-colored semicircles have been widely used in the last decade but alas, have quickly become pass�. However, the fascination with the full color scale continues. Lately, we have been seeing a lot of "rainbow colors" that are being manipulated in a variety of ways. Most designers will use transparency in order to highlight the visual effects and to enable the fusion of colors, thus obtaining an impressive shift from one color to another. Techniques like vivid colors, shifting from shades of red to blue facilitated by an entire spectrum of color, and especially the usage of a dark background to highlight each color lead to outstanding logos that will always be attractive to the human eye.
สีรุ้งแบบคลาสสิกในครึ่งวงกลมได้ถูกใช้มากมายใน10ปีที่แล้ว แต่มันก็ผ่านไปแล้ว อย่างไรก็ตามความหลงไหลในการไล่ทุกสียังคงมีอยู่ และล่าสุดเราได้เห็นสีรุ้งมากมายที่ได้ถูกสร้างออกมาในหลายๆ ทาง นักออกแบบส่วนใหญ่จะใช้การโปร่งแสงในลำดับของสี ความโดดเด่น และการรวมตัวของสี ซึ่งคนเห็นจะได้รับความประทับใจจากการเปลี่ยนจากสีหนึ่งไปอีกสีหนึ่ง เทคนิคเหมือนทำให้สีสรรมีชีวิตชีวา เลื่อนจากสีแดงไปสีฟ้าโดยมีสีสเปกตรัมภายใน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พื้นหลังสีเข้มทำให้สีดูโดดเด่นออกมาจากโลโก้ซึ่งจะดึงดูดสายตาของคนเสมอ
These logos convey the concepts of sophistication, technology and freshness. With a nearly infinite number of possibilities for combining colors, the visual effect is invariably special. What is really spectacular is that although the classical rainbow representation has come to an end, the message still remains the same: there are no boundaries - nothing is impossible. This trend proves that using classic elements will generate novelty and will also bring about up-to-date and striking directions.
โลโก้เหล่านี้แสดงถึงหลักการของความมีประสบการณ์ เทคโนโลยี และความสดใหม่ และมีความเป็นไปได้ของการรวมตัวของสีจนเกือบจะไม่มีขีดจำกัด เวอรชัวเอฟเฟกคือสิ่งพิเศษที่ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าความตื่นเต้นของสีรุ่งยุคเก่าจะถึงจุดจบไปแล้ว แต่ความหมายของมันยังคงเหมือนเดิม มันไม่มีขอบเขต ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เทรนนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้องค์ประกอบเดิมสามารถสร้างสิ่งใหม่ และยังนำไปสู่การบุกเบิกทางที่ทันสมัย
| | | | 7 | Sci-Fi Fonts ฟอนต์แนววิทยาศาสตร์
| In logo design the font frequently serves to strengthen the message as conveyed by the image. But what about the typographic logos? In this particular case, choosing the right font is crucial. Many of these logos can be memorable. With the development of the number of personal computers per capital, we are now witnessing the rise of a new category of logos , using what the industry refers to as Sci-Fi fonts.
ในการออกแบบโลโก้ ฟอนต์เป็นสิ่งที่นิยมนำมาเป็นจุดแข็งในความหมาย บ่งบอกถึงภาพลักษณ์ แต่อะไรคือประเด็นที่เกี่ยวกับโลโก้ที่ว่าด้วยการพิมพ์ ? ในกรณีเฉพาะนี้ การเลือกฟอนต์ที่ถูกต้องนั้นสำคัญมาก โลโก้หลายๆ อันสามารถทำให้คนจำได้ ด้วยการพัฒนาจำนวนของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต่อเมืองหลวง ตอนนี้เราเป็นพยานได้ว่าโลโกประเภทนี้มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งถูกใช้ในอุตสาหกรรม นั่นคือ ฟอนต์แนววิทยาศาสตร์
Whether they are the creation of famous designers such as RayLarabie and Wim Crouwel or are projects produced in the typography classes of some diligent students, we have seen an ever-increasing number of these fonts over the last few years.
ไม่ว่าพวกมันจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ของนักออกแบบที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น RayLarabie และ Wim Crouwel หรือ มันจะเป็นโครงงานที่ถูกสร้างขึ้นในวิชาการพิมพ์ของนักเรียนขยันๆ เราก็ได้เห็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นของฟอนต์แบบนี้ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
In the beginning of 2000 and later, we remember graphic design teachers recommending infrequent usage of these fonts. Their reason was that it was just a passing trend. What happened was the opposite. It seems they're digging their feet in.
ในปีช่วงต้นปี 2000 และหลังจากนั้น เราจำได้ว่าอาจารย์สอนการออกแบบกราฟฟิกไม่ค่อยได้แนะนำให้ใช้ฟอนต์แบบนี้ เหตุผลของพวกเขาคือมันเป็นแค่เทรนที่ผ่านไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม พวกมันกลับจะฝังรากลึกลงไปในการออกแบบมากขึ้น
The frequent use of sci-fi fonts, with straight edges and simple shapes has imposed itself as a new trend in logo design. We've seen various designers "play" with these fonts in their logos: they either change the font shape or create a new one in programs such as FontLab.
การใช้ฟอนต์วิทยาศาสตร์บ่อยๆ ด้วยขอบที่ตรง และรูปทรงธรรมดา ได้กำหนดตัวมันว่าเป็นเทรนของการออกแบบโลโก้ เราเห็นนักออกแบบหลายคนเล่นกับฟอนต์แบบนี้ในโลโก้ของเขา พวกเขาเปลี่ยนรูปร่างของฟอนต์ และสร้างอันใหม่ในโปรแกรมอย่างเช่น FontLab
Let's take a look at the example of Compaq. Compaq chose this type of font for its company logo redesign project in 2007. It clearly conveys the company's new slogan: "See why Compaq gets people talking". See how that slogan is conveyed in the shape of the Q? See the Talk Box? That's an example of a logo that clearly conveys the core message by means of wording only. After all, less is more, isn't it?
ดูตัวอย่างเช่นของ Compaq Compaq เลือกฟอนต์ประเภทนี้สำหรับบริษัทตอนที่มีการออกแบบใหม่ในปี 2007 มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสโลแกนใหม่ของบริษัทคือ "เห็นไหมว่าทำไม Compaq ทำให้คนคุยกัน" เห็นไหมว่าสโลแกนแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของตัว Q ? เห็นกล่องคำพูดมั้ย ? นี่คือตัวอย่างของโลโก้ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนสำหรับข้อความสำคัญโดยมีแค่ตัวหนังสือเท่านั้น ทั้งหมดนี้คือ ยิ่งน้อย ยิ่งดูยิ่งใหญ่ ใช่มั้ย ?
| | | | 8 | Leaves Logos โลโก้ใบไม้
| No matter which logo design collection you browse through, you will notice that they have all been "invaded" by leaves over the last few years. Leaves here and there, leaves everywhere! You sit and wonder why. Could this be the result of a common concern for the environment and the harmful effects of pollution? Is it because green is trendy? Or are humans aching for nature because they sit all day in their office cubicles facing their computer screens making them crave for the natural outdoors?
ไม่ว่าโลโก้แบบไหนทีคุณหา คุณจะสังเกตุได้ว่ามันจะถูกใส่ใบไม้เข้าไปในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ใบไม้ตรงนี้ ใบไม้ตรงนั้น ใบไม้ในทุกๆ ที่ คุณนั่งลงแล้วสงสัยว่าทำไม นี่อาจจะเป็นผลของความกังวลเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการเพิ่มจำนวนของมนุษย์หรือเปล่า? หรือมันเป็นเทรนสีเขียว? หรือคนอยากเข้าหาธรรมชาติเพราะว่าวันๆ นั่นอยู่แต่ในกล่องสีเหลี่ยม ที่มีจอคอมพิวเตอร์อยู่ข้างหน้า ทำให้พวกเขาปรารถนาที่จะออกไปหาธรรมชาติข้างนอกหรือเปล่า ?
Leaves have become synonymous with creativity, originality, and innovative thinking. We also find leaves in company logos even if the companies are not engaged in the business of nature or the environment. But the key notion here is that the use of leaves somehow "tames" the message conveyed.
ใบไม้เป็นตัวแทนของคำว่าความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นต้นแบบ และนวัตกรรมทางความคิด และจะเห็นใบไม้ในโลโก้บริษัทถึงแม้ว่าบริษัทนั้นจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนกับธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม แต่กุญแจทางความคิดตรงนี้คือการใช้ใบไม้อาจจะหมายถึงความอ่อนน้อมที่จะต้องการแสดง
Lots of web 2.0 sites feature leaves making spring-green the preferred web 2.0 color. We're not talking about the classic image of the leaves themselves but about their stylization, especially under the form of rectangles with rounded edges - this is a modern representation in accordance with modern design trends.
เว็บ 2.0 จำนวนมากชอบใช้สีใบไม้ในฤดูใบไม่ผลิ เราไม่ได้พูดถึงสีดั่งเดิมของใบไม้แต่พูดถึงความมีสไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าที่มีขอบมน นี่คือสิ่งใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องกับการออกแบบสมัยใหม่
These logos are usually simple and leave the viewer with a pleasant image. Another benefit is that these company logos are very catchy. The thing we have to be wary of is the overwhelming invasion of leaves - they are now overused. Tutorials have already appeared, showing how to create a leaf logo. Will this trend last or will it lead to the need for raking the leaves and sending them off to the dump site? What do you think?
โลโก้เหล่านี้ส่วนใหญ่ทำให้ภาพลักษณ์เป็นแบบดูสบายๆ และข้อดีคือทำให้โลโก้จำได้ง่าย สิ่งที่เราต้องระวังคือการใช้ใบไม้มากเกินไป ในบทเรียนได้มีแสดงให้เห็นวิธีการสร้างโลโก้ใบไม้ เทรนนี้จะอยู่ไปตลอดหรือจะนำทำให้เว็บที่มีใบไม้เป็นเว็บโง่ๆ คุณคิดว่าไง ?
| | | | 9 | The "Ugly" 80's ความน่าเกลียดยุค 80
| Take a look at the logo designs above. What's your first reaction? They bowl you over and leave you speechless - and somewhat confused don't they?
ดูการออกแบบโลโก้ด้านบน คนมีความรู้สึกแรกกับมันอย่างไร ? บางอันทำให้คุณพูดไม่ออก และบางอันทำให้คนสับสนหรือเปล่า ?
These logos don't have beautiful shapes, shadows, mirrored reflections, warm colors, or icons that signify something; they look like the result of some kid playing around mindlessly. So why would anyone wish to have such a logo?
โลโก้พวกนี้ไม่ได้มีรูปทรงที่สวยงาม เงา เงาสะท้อนกระจก สีอบอุ่น หรือสัญลักษณ์ที่หมายถึงอะไรบางอย่าง มันดูเหมือนเด็กมาเล่นอะไรสักอย่างโดยไม่มีเหตุผล แล้วทำไมบางคนอยากได้โลโก้แบบนี้ ?
The explanation is simple: this type of logo design is very different and will definitely stand out by sheer reason of being totally different. But if we look back to the 80's which was a period of strange geometric shapes and neon colors - these types of logos came about and earned the reputation of spearheading the invasion of
"cute logos".
คำอธิบายง่ายมาก การออกแบบโลโก้แบบนี้แตกต่าง และจะมีเหตุผลที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าเรามองกลับไปในยุค 80 ตอนที่มีทรงแปลกๆ และสีนีออน โลโก้ประเภทนี้มาเป็นตัวแทนที่แฟร่หลายของคำว่า "โลโก้ที่น่ารัก"
The emergence of this trend can also be attributed to a mighty comeback of the 80's in fashion ,interior and industrial design. Some consider these logos to be modern and futuristic; others think of them as plain ugly. But let's not be too harsh in our criticism because the mere fact that they are so talked about is noteworthy enough.
การเปิดตัวของเทรนนี้สามารถนำคุณลักษณะของแฟชั่นยุค 80 กลับมา ทั้งการออกแบบสถาปัตยกรรมและอุตสหกรรม บางคนมองว่าโลโก้เหล่านี้ทันสมัยและเป็นอนาคต บางคนคิดว่ามันดูน่าเกลียดธรรมดา แต่ไม่ต้องทนไม่ไหวกับคำวิจารณ์ของเราเพราะว่าความจริงแล้วพวกมันได้ถูกตั้งข้อสังเกตมามากพอสมควรแล้ว
There are numerous articles that picked apart the London 2012 logo. Although many agree that the 80's have not demonstrated excellence in graphic design and people severely criticized this trend, we should nevertheless consider the advantages that this type of logo has to offer: first, it stands out and gets noticed; second, it's totally different than anything we've seen before; and third, it's never boring. In fact, we'll even venture out to say that it's outrageous, exciting and rude. Each of the colors symbolizes an explosion of energy, action and sound in accordance to our living present. The message is quickly and brutally conveyed and it doesn't require thinking on the part of the viewer. In other words, an alluring and attractive no-brainer!
มีบทความจำนวนมากนำโลโก้ London 2012 มาพูดถึง ถึงแม้ว่าหลายคนจะเห็นด้วยว่ายุค 80 ไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีในการออกแบบกราฟฟิกและ ผู้คนตำนิเทรนนี้อย่างรุนแรง อย่างน้อยเราควรจะพิจารณาข้อดีของสิ่งนี้ที่นำเสนอ อย่างแรก มันโดดเด่นและเป็นที่สังเกต สองมันแตกต่างจากทุกอย่างที่เราเห็นมา และสามมันไม่น่าเบื่อ ในความจริงแล้วเราได้เคยเสี่ยงที่จะบอกว่ามันดูฝ่าฝืน น่าตื่นเต้น และหยาบ แต่ละอันมันต้องการความคิดของผู้ดู ในทางกลับกันเป็นการดึงดูดพวกไร้สมอง!
We'll add that this trend has revolutionized logo design and fueled the process of creativity by imposing new rules and redefining what's beautiful. Of course, there are still risks involved regarding this type of approach, the highest risk being the inability, on the part of the viewer, to understand the message. Companies that cannot afford an expensive publicity budget like the one for Wacom or London 2012 are particularly susceptible to this risk. So designers, pay attention! "It's pure attitude, designed to intrude and degrade."
(Tony Spaeth)
เราจะเพิ่มให้เทรนนี้เป็นอีกหนึ่งการปฏิวัติการออกแบบโลโก้ และเป็นพลังในความคิดของความสร้างสรรโดยแสดงถึงกฎใหม่และนิยามคำว่าสวยใหม่ แน่นอนที่ยังเป็นการเสี่ยงที่จะทำแบบแบบนี้ ความเสียงสูงสุดคือ เป็นสิ่งที่ไม่มีความความหมาย สำหรับผู้ดู ที่จะเข้าใจความหมาย บริษัทที่ไม่ได้เข้าถึงงบประมาณสาธรณะที่สูงอย่างเช่น Wacom หรือ London 2012 จะมีความรู้สึกไวต่อความเสียงแบบนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นคนออกแบบจะสนใจในเรื่อง "มันคือทัศนคติล้วนๆ สำหรับการออกแบบเชิงรุก และลดคุณค่า"
| | | | 10 | The New Crest บรรลุจุดสุดยอดแนวใหม่
| New Crest logos have been around in the last few years. The year 2008 though will sound out the trumpets - New Crests go Mainstream!! With the clever combination of medieval symbolism and urban culture graphic elements, the New Crest logos appealed to the youth when they first appeared. Eventually, they were also adopted and embraced by the extreme sports and boarding communities everywhere. At the same time they were used by well known graphic designers for big clients like MTV etc.
โลโก้แนวบรรลุจุดสุดยอดแนวใหม่ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงในปี 2008 ก็มีเสียงเหมือนทรัมเป็ด New Crests เป็นทางสายหลัก ซึ่งเป็นการรวบรวมความฉลาดของสัญลักษณ์ของล้าสมัย และวัฒนธรรมในเมืองเป็นองค์ประกอบ โลโก้แบบ New Crest ดึงดูดหนุ่มสาวเมื่อพวกเค้าเห็นเป็นครั้งแรก ในที่สุดพวกมันก็ถูกนำมาใช้ในกีฬาเอกซ์ตรีม และชมรมบอร์ดในทุกๆ ที่ และในขณะเดียวกันก็พวกมันก็ถูกใช้โดยนักออกแบบของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง MTV
Maybe it's the contrast between the old and new - novelty fonts against medieval lions as an example; another example would be the ancient decorations versus modern objects.
บางทีมันก็เหมือนเป็นสิ่งที่ดูขัดระหว่างเก่ากับใหม่ ฟอนต์ที่ใหม่กับสิงโตยุคเก่าเป็นต้น และตัวอย่างอื่นๆน่าจะเป็นพวกสิ่งตกแต่งโบราณกับสิ่งทันสมัย
Collage is the main process behind these emblems, blending the right elements to strike the right chord. And if you think about it, isn't this what graphic design is all about anyway?
ศิลปการสร้างภาพจากชิ้นส่วนเล็กๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกันคือหลักการของเครื่องหมาย รวมองค์ประกอบที่ถูกต้องให้ดูเข้ากัน และถ้าคุณคิดเกี่ยวกับมัน ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับการออกแบบกราฟฟิกเสมอไปใช่มั้ย ?
We tend to like new crests and think it's a good experiment to try with the right client in 2008 and the years to come. One word of caution: new crest logos are not for beginners. Designers need to get some experience under their belt first before taking a crack at these logos. It takes a trained eye and oodles of creativity and imagination to take new crest logos into new highs!
เราอยากที่จะชอบ New Crests และคิดว่ามันเป็นการทดลองที่ดีที่จะทดลองกับลูกค้าที่เหมาะกับมันในปี 2008 และปีต่อๆ ไปที่จะมาถึง และคำเตือนอันนึงคือ โลโก้ New Crest ไม่ได้มีไว้สำหรับมือใหม่ คนออกแบบต้องมีประสบการณ์มาบ้าง ต้องมีการฝึกหัดมาบ้างก่อนจะมาทำโลโก้แนวนี้ มันจะต้องใช้สายตาที่ได้รับการฝึก และความคิดสร้างสรรค์จำนวนมากมาก และจินตนาการ ที่จะทำให้โลโก้ New Crest มีคุณค่าสูง
| |
